" เกิดอะไรขึ้นกับ งานเครื่องเสียง(และภาพ) : ตอน 2 "

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

ปัญหาที่สำคัญไม่แพ้กัน จากที่กล่าวแล้วในตอน1 คือ. "คุณภาพของการสาธิต" พูดแล้วเหลือเชื่อ งานเครื่องเสียง บ้านเราที่จัดกันมา ร่วม 80 งานตลอดเกือบ40 ปี ถ้านับเฉพาะ 10 ปีที่ผ่านมา มีชุดที่ผมฟังแล้วเข้าท่า พอรับได้ เป็นผู้เป็นคนหน่อย ไม่น่าเกิน 30 ชุด จากร่วม 600 ชุด ( ทุกงานรวมก้น ตลอด 10 ปี ) ไม่มีชุดไหนเลยที่ผมฟังแล้ว ยกนิ้วให้ เมื่อเป็นเสียอย่างนี้ จึงล้มเหลวในการสร้างความประทับใจให้คนมาเที่ยวแล้ว บอกต่อ และอยากมาอีก หรือถึงขั้นยอมควักกระเป๋าซื้อ

ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น คำตอบคือ

1: พวกที่มาออกงานและติดตั้ง จูนชุด .....ฟังไม่เป็น ท่าดีทีเหลว บรรยายสรรพคุณได้คล่อง แต่พอได้ฟังผลงานจริง ไม่มีอะไรในกอไผ่ มีแต่ราคาคุย. หรืออ้างคำวิจารณ์สรรเสริญจากสื่อฝรั่งไม่ว่า สื่อสิงพิมพ์หรือon-line เมื่อฟังไม่เป็น แล้วจะจัด จูนชุดออกมาให้เสียงดีได้อย่างไร จูนชุดไม่เป็น เอะอะก็ใส่ใช้ ตัวช่วยแพงลิบ เกินฐานะของสินค้าตัวที่จะขาย ไม่หลอกก็เหมือนหลอก

2: สภาพห้องที่ไม่เอื้ออำนวย เล็กไป ทึบหรือก้อง

3: เสียงรบกวน จากห้องข้างเคียง

4: ระบบไฟของโรงแรม ไม่นิ่ง. ขึ้นๆลงๆ ( เสียงไดนามิคเละ) แถมมีสัญญาณรบกวน( เสียงจัด สาก แจ๋น ) สายไฟหลักของชั้นเป้าหมาย เดินสายไฟย้อนทิศหรือ สายไฟรองเข้าแต่ละห้อง เดินย้อนทิศ. ผลคือ เสียงจะออกมาก้อง โด่งกว้างๆแถวเสียงกลาง ทรวดทรงมิติเสียงแบน ไม่3 D เวทีเสียงตื้น นักดนตรีเข้าแถว หน้ากระดานเรียง1 ความน่าฟังหายหมด

5: ตอนนี้ เกือบทั้งหมด 100% ดวงไฟตั้งโต๊ะ ดวงไฟเพดาน เป็น LED นับ สิบๆดวง ทำให้ทรวดทรงเสียงฟุ้งแบน มั่ว ความเป็นดนตรีหาย การสอดใส่อารมณ์หาย ช่วงโหมเละ สับสนไปหมด สัญญาณรบกวน(NOISE) จากระบบ ไฟ LED ทำให้ เสียงทุกแง่มุม เลวลงได้ถึง 30 %

6: การรบกวนทางไฟบ้านจากเครื่องเสียง(และภาพ) ของห้องข้างเคึยง ไม่ว่ามาทางสายไฟac. แผ่มาทางอากาศในรูปคลื่น ซึ่งมีจำนวนมหาศาล ทำให้เสียงแย่ลงทุกกรณีได้ถึง 30%

7: การที่ในห้องฟังมีอุปกรณ์ เครื่องเสียงโน่นนี่ ต่ออยู่ เสียบไฟคาอยู่ แม้ไม่ได้เปิดเสียง หรือแม้ไม่ได้เสียบสายไฟคาอยู่ก็ตาม ล้วนมีผลต่อเสียงของชุดที่ตั้งใจฟังทั้งสิ้น 25-35%

แค่ 7 ข้อนี้ก็แทบสิ้นหวังที่เสียง ( และภาพ) ในงาน จะออกมาดีได้ ต่อให้ได้เซียน ระดับเทพมาติดตั้งจูนให้ ก็ตาม ก็ได้ในระดับหนึ่ง ไม่มีทางได้ฟังตัวตนแท้จริงของเครื่องเสียง ของชุดนั้นๆ ผมไปชมงาน เดินดูการติดตั้ง การจูน ไปแต่ละห้อง แต่ละชุด 90% ผิดพลาดหมด บางทีชี้แนะก็ทำท่าไม่พอใจอีก ดังนั้น ถ้าคิดจะไปฟัง ไปดู ในงานแล้วตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่าง จึงเสี่ยงมากๆ นอกจากรู้ว่าดีจริงมาก่อนหน้าแล้ว และอย่าสนใจข้อแก้ตัวของเจ้าหน้าที่ ที่ออกตัวว่า ของเพิ่งมาถึง 2 วันนี่เอง ยังเบิร์นอินไมได้ที่ จำไว้ ของถ้าดีจริง แม้ยังไม่ผ่านเบิร์นอิน ฟังอย่างไรมันก็ต้องมีแวว หรือจะให้ดี ไว้ฟังหลังงานอีกทีหลังเบิร์นอินได้ที่ การจัดงานเครื่องเสียงและภาพที่ถูกต้องและดูมีประโยชน์มากกว่า จึงควรเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ ได้สอบถามพูดคุยกับ เจ้าของสินค้า ไม่ว่าผู้นำเข้า ผู้ออกแบบ ผู้ผลิต ทั้งไทยและเทศ ได้ไขข้อข้องใจ แนวทางการออกแบบ การทดสอบทดลองเท่าที่ทำได้ ได้สอบถามการใช้งาน การให้บริการของยี่ห้อนั้นๆจากผู้ที่ซื้อไปแล้ว นี่ต่างหากจึงจะนับเป็นคุณค่า ประโยชน์ ของการจัดงาน ออกงาน ชมงาน อย่างแท้จริง